เนื่องจากในระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีการถูกคุกคามจากบุคคลหนึ่งซึ่งไม่ขอเอ่ยนาม เค้าเคยบุกขึ้นคอนโดของเรา(ที่เค้ารู้เพราะเค้าเป็นคนช่วยหาเอนเจ้นท์และคอนโดให้)ซึ่งเค้าก็เปย์ เงินและของต่างๆไม่ว่าจะตุ๊กตาโทรศัพท์ของเล่น ซึ่งในช่วงเวลานึงเราได้ยืมเงินจากเค้าค่ะ(แต่ที่ผ่านมาเราไม่เคยบังคับเค้าให้โอนมาให้หรืออะไรเลยเค้าได้ยอมรับกับคนที่เค้าทักไปหาก่อนหน้านี้แล้วว่าให้เองและให้ด้วยความเสน่หา) และได้มีการขอคืนเงินไปช่วงที่เริ่มมีปัญหาและช่วงที่เราขอแยกตัวออกมาซึ่งเค้าไม่รับแต่ต่อมาเค้าได้มีการทักมาขู่ ขู่ทำร้ายร่างกายมีการพูดจาบีบคั้น ด่าทอ และมีการพูดเกี่ยวกับเรื่องการขู่ให้ ต.ซึ่งเรามีพยานที่รู้เห็นข้อความเหล่านี้ทั้งหมดและเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดคือเราโดนบุกมาที่คอนโดตอนนั้นเรากำลังจะไปข้างนอกกับน้องสาวซึ่งเค้าได้แอบเข้ามาในตัวตึกของคอนโดซึ่งรอจังหวะที่คนเปิดเข้าออกในจังหวะที่ยามไม่ทันระวังขึ้นมาในตัวคอนโดแล้วมาดักรอที่หน้าห้องซึ่งเราไม่ทราบเลยเปิดออกไปหลังจากนั้นเค้าก็เข้ามาในห้องได้มีการบีบบังคับ กระชากแขนและทำลายข้าวของซึ่งตอนนั้นเรามีภาวะซึมเศร้าและจิตตกระหว่างนั้นเราโทรหาพี่ชายแท้ๆเพื่อให้เป็นพยานกับการบุกรุกในครั้งนี้ เราเลือกที่จะถือคัตเตอร์และวิ่งเข้าไปในห้องน้ำด้วยความเครียดทำร้ายร่างกายตัวเองและระหว่างนั้นก็โดนข่มขู่อยู่ตลอดเวลาเราจึงเลือกออกมาและใช้คัตเตอร์ชี้หน้าบุคคลดังกล่าวซึ่งเค้าไม่หยุดเราเลยเลือกที่จะจบชีวิตด้วยการกระโดดตึกแต่น้องสาวคว้าไว้ได้ทันโดยหลังจากตรงนี้เค้าได้มาขอโทษและขอยกเลิกการกระทำก่อนหน้านี้และได้วิ่งหนีออกไปจากคอนโดแต่เราเองตอนนั้นสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วทางพี่ชายเลยได้ทำการแจ้งความและเรียกกู้ภัยและนิติมาโดยด่วนซึ่งเราถูกนำส่งตัวไปที่รพ.อย่างเร่งด่วนเพราะด้วยอาการหลายๆอย่าง เรานอน รพ.เกือบเดือนและยังคงต้องหาหมอในทุกๆเดือนเรามีหลักฐานการรักษาทั้งหมดว่าเกิดจากสาเหตุใด หมอได้ระบุไว้อย่างชัดเจน หลังจากออกจากตึกอายุรกรรมย้ายไปตึกจิตเวชซึ่งในนั้นมีแต่ลูกกรงเราต้องกินยาและโดนให้ยาเป็นจำนวนมากโดนเข็มแทงทุกวันซึ่งระหว่างการรักษาเรามีอาการแย่ลงในวันสุดท้ายก่อนจะได้ออกจากตึกจิตเวชเพราะเรามีอาการหัวใจเต้นเร็วไข้ขึ้นสูงหัวใจเต้นผิดจังหวะจนถูกนำตัวไปรักษาซึ่งเวลาที่ใช้ในรพ.นั้นยาวนานมาก หลังจากเราเข้ารพ.เราโดนขู่อยู่ตลอดโดนตามโดนโพสต์ถึงและยิ่งโดนใช้คำพูดไล่ให้ไป ต.ซึ่งในแชทนี้น้องสาวที่อยู่กับเราเป็นคนคุยเองทั้งหมดเราไม่ได้แตะโทรศัพท์เท่าไหร่นอกจากตอนน้องมาเยี่ยมเพราะหมองด ด้วยความที่เราชอบเต้นชอบเล่นตต.เราก็จะเอามาอัพลงโซเชียวเป็นปกติเพราะไม่อยากนึกถึงเหตุการนั้นๆ หลังจากออกรพ.เรามีอาการแพนิค ไม่กล้าออกจากห้องถ้าไปข้างนอกก็จะไม่กล้าเดินไปตรงทางเลี้ยวก่อนเข้าห้องเพราะกลัวเราหัวใจเต้นแรงเวียนหัวหน้ามืดทุกครั้งที่ได้ยินเสียงรองเท้าเดินผ่านหน้าห้องเราก็จะกลัว เรานอนไม่หลับ ผวา ตื่นกลัวทุกวัน และปัจจุบันก็ยังเป็นอยู่ทั้งนี้ทั้งนั้นที่เราออกมาเล่าเพราะเราไม่ต้องการโดนคุกคามอีกในตอนนี้เราอายุ19 เราทำงานหาเงินเองทุกบาททุกสตางค์ เราไม่ต้องการให้บุคคลดังกล่าวเข้ามายุ่งในชีวิตเราเหมือนกัน เพราะเค้าเองก็มีลูกสาวที่อายุเท่าๆเราถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกสาวเค้าจะทำอย่างไรและหากไม่หยุดจะขอไปชี้แจงต่อที่ สน.และให้ทางคอนโดนำหลักฐานมาดำเนินการข้อหาบุกรุกต่อไปค่ะ ขอเพิ่มเติมนะคะตอนนี้บุคคลดังกล่าวก็ได้มีการเผยแพร่ข้อมูล ด่าทอ โพสต์ในตต.ของเค้าอยู่ค่ะ ได้มีการเปิดเผยชื่อนามสกุลเราด้วยค่ะเดี๋ยวเราจะทำการดำเนินคดีต่อไปค่ะ